วันอาทิตย์ที่ 9 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2557

โรคราน้ำค้าง (Downy mildew)

โรคราน้ำค้าง ทำลายยอด และช่อดอกองุ่น

โรคขององุ่น

โรคราน้ำค้างนับว่าเป็นโรคที่สำคัญที่สุด สำหรับการปลูกองุ่นในบ้านเรา เป็นโรคที่ระบาดรุนแรงทำความเสียหายให้แก่ผลผลิตอย่างมาก โรคราน้ำค้างเกิดจากเชื้อรา PLasmopara viticola สามารถระบาดได้ทั้งปีโดยเฉพาะอย่างยิ่งในฤดูฝนจะระบาดอย่างรุนแรง เพราะความชื้นในอากาศมีสูง ซึ่งโรคนี้จะเกิดได้กับส่วนต่างๆ ของต้นองุ่นทั้งใบ ช่อ ดอก ยอดอ่อน เถา และช่อผล อาการของต้นองุ่นที่เกิดโรคนี้จะสังเกตได้ง่ายๆ คือ

อาการที่ช่อดอก: ช่อดอกที่รับเชื้อจะค่อยๆ เปลี่ยนเป็นสีเหลือเป็นหย่อมๆ อีก 2-3 วัน ต่อมาจะเห็นเชื้อราสีขาวขึ้นที่ ช่อดอกเห็นได้ชัด ช่อดอกเปลี่ยนเป็นสีน้ำตาลและแห้งติดเถา โดยช่อดอกอาจแห้งจากโคนช่อ ปลายช่อ หรือกลางช่อก็ได้

อาการบนใบองุ่น: ใบที่ถูกโรคทำลายในระยะแรกจะเห็นเพียงจุดเล็กๆ สีเหลืองปนเขียวทางด้านบนของใบ ต่อมาจะขยายเป็นแผลโตขึ้นขนาดของรอยแผลไม่แน่นอน ในระยะนี้ถ้าดูด้านล่างของใบตรงที่เป็นแผลจะพบเชื้อราสีขาวอยู่เป็นกลุ่มเห็นได้ชัด ซึ่งตรงกลุ่มนี้เองจะมีส่วนขยายพันธุ์สามารถที่จะเจริญแพร่ระบาดติดต่อไปยังใบอื่นๆ หรือแปลงอื่นๆ โดยปลิวไปกับลม อาการของโรคจะสังเกตได้ก็ต่อเมื่อเชื้อราเข้าทำลายแล้ว 4 - 6 วัน

อาการที่เถาหรือที่มือเกาะ: อาการที่มือเกาะหรือที่หนวดนั้นเริ่มจากมือเกาะเปลี่ยนเป็นสีเหลืองปนเขียว และเปลี่ยนเป็นสีน้ำตาลแห้งติดเถา สำหรับอาการที่เถาองุ่นผิว เปลือกจะเปลี่ยนเป็นสีดำหรือสีน้ำตาล มองเห็นเชื้อราสีขาวตรงกลางแผลได้ชัดเจนทำให้ยอดองุ่นแคระแกร็น

อาการที่ยอดอ่อน: ยอดอ่อนที่ถูกโรคราน้ำค้างเข้าทำลายจะแคระแกร็น ยอดสั้น มีเชื้อราสีขาวขึ้นปกคลุมยอดเห็นได้ชัดเจน ยอดอ่อนจะเปลี่ยนเป็นสีน้ำตาล และแห้งตายในที่สุด
อาการที่ช่อผล: จะเกิดกับผลอ่อนขององุ่น โดยครั้งแรกจะมีลักษณะเป็นจุดหรือลายทางๆ สีน้ำตาลที่ผล เมื่อผลองุ่นเริ่มแห้งเปลือกผลจะเหี่ยวและเปลี่ยนเป็นสีเทาปนสีน้ำเงิน หรือน้ำตาลแก่ ถ้าเป็นมากผลจะเหี่ยวหมดทั้งช่อ

วิธีป้องกันโรคราน้ำค้าง

โรคขององุ่น

1. หลังจากที่ต้นองุ่นแตกกิ่งใบใหม่แล้ว ควรจัดแต่งกิ่งเถาขององุ่นให้กระจายทั่วๆ ค้าง เพื่อไม่ให้ทับซ้อนกันมาก กิ่งองุ่นที่ไม่ต้องการก็ให้ตัดแต่งออกให้โล่งโปร่ง โดยไม่ให้กิ่งห้อยย้อยลงจากค้าง ซึ่งจะช่วยให้อากาศถ่ายเทสะดวกจะช่วยลดความชื้นลง และช่วยลดการระบาดของโรคได้อีกด้วย


2. หมั่นทำความสะอาดสวนองุ่นอย่าให้รกรุงรัง โดยเฉพาะกิ่งต่างๆ รวมทั้งใบองุ่นที่ตัดออกจากต้น ให้นำไปเผาทำลายเสีย อย่าปล่อยทิ้งไว้ในสวนเพราะจะเป็นแหล่งแพร่เชื้อโรคต่างๆ ได้

โรคแอนแทรคโนส หรือโรคผลเน่า

โรคแอนแทรคโนส หรือโรคผลเน่า

โรคองุ่น

โรคองุ่นชนิดนี้เกิดจากเชื้อรา Colletotricchum gloeosporioides
ซึ่งจะทำให้ผลองุ่นเน่าเสีย ชาวบ้านมักเรียกว่า "โรคอีบุบ หรือ โรคลุกบุบ" เพราะองุ่นที่เป็นโรคชนิดนี้จะเป็นแผลลึกลงไปในเนื้อและเน่าเสียหาย โรคนี้เป็นโรคที่ระบาดอย่างช้าๆ แต่ก็รุนแรงและรักษายาก บางท้องที่บางฤดูก็เป็นปัญหาสำหรับการปลูกองุ่นมากเช่นกัน โรคชนิดนี้นอกจากจะเป็นที่ผลขององุ่นแล้ว ยังเป็นกับเถาและใบอีกด้วย โดยเชื้อราสามารถแพร่ระบาดไปกับลมและน้ำได้ ปกติแล้วโรคแอนแทรคโนสนี้จะระบาดทำความเสียหายกับทุกส่วนขององุ่น โดยเฉพาะส่วนที่ยังอ่อนอยู่ เช่น ยอดอ่อน กิ่งอ่อน ใบอ่อน ส่วนที่ผลก็เป็นโรคได้ ทั้งในระยะผลอ่อนจนถึงระยะผลโต
โรคผลเน่าที่เกิดกับองุ่น

อาการขององุ่นที่เกิดโรคแอนแทรคโนส

อาการที่ผล: โรคนี้สามารถเข้าทำลายผลองุ่นได้ทุกขนาด ตั้งแต่เล็กจนโต ในผลอ่อนที่เป็นโรคนี้ จะเห็นจุดสีน้ำตาลอ่อนถึงสีน้ำตาลเข้ม และบุ๋มลงไปเล็กน้อย ขอบแผลสีเข้ม ถ้าอากาศชื้นๆ จะเห็นจุดสีชมพู สีส้มตรงกลางแผล ส่วนในผลองุ่นแก่จะเห็นบริเวณเน่าเป็นสีน้ำตาล มีจุดสีชมพู สีส้ม เกิดขึ้นบริเวณตรงกลางแผลเต็มไปหมด ถ้าโรคยังคงเป็นต่อไป จะทำให้ผลองุ่นแห้ง เปลือกเหี่ยว ผลติดกับช่อไม่ร่วงหล่น เมื่อโดนน้ำหรือน้ำค้าง เชื้อโรคก็ระบาดจากผลที่เป็นแผลไปยังผลอื่นๆ ในช่อจนกระทั่งเน่าเสียหมดทั้งช่อ

อาการที่ใบ: องุ่นที่เป็นโรคนี้ จะเห็นที่ใบเป็นจุดเล็กๆ สีน้ำตาลเป็นแผลมีรูปร่างไม่แน่นอน ตรงกลางแผลมีสีน้ำตาลอ่อนหรือสีเทา ขอบแผลสีน้ำตาลเข้ม ถ้าอากาศแห้งตรงที่เป็นแผลจะหลุดหายไป ทำให้ใบเป็นรู บางครั้งใบก็ม้วนงอลงมาด้านล่างแต่ไม่ร่วงในทันที ใบองุ่นที่เป็นโรคจะไม่เติบโตต่อไปเมื่อเป็นโรคมากขึ้นใบจะร่วง

อาการที่ยอดอ่อน: ยอดอ่อนขององุ่นจะเป็นจุดเล็กๆ สีน้ำตาลเข้ม ต่อมาขอบแผลจะขยายออกตามความยาวของกิ่งคือ รอยแผลหัวแหลมท้ายแหลม ขอบแผลเป็นสีน้ำตาลแก่ถึงสีดำ กลางแผลสีดำขรุขระ ในฤดูฝนอากาศมีความชื้นมาก จะเห็นเป็นจุดเล็กๆ สีชมพูอยู่ตรงกลางแผล ถ้าเป็นแผลมากๆ ยอดจะแคระแกร็น มีการแตกยอดอ่อนมาก แต่แตกออกมาแล้วแคระแกร็น ใบที่แตกออกมาใหม่นี้ก็จะมีขนาดเล็กสีซีดผิดปกติและจะแห้งตายในที่สุด

วิธีป้องกันกำจัด

1. เมื่อพบว่าองุ่นเป็นโรคให้ตัดส่วนที่เป็นโรคออกก่อน แล้วจึงฉีดพ่นด้วยสารป้องกันกำจัดเชื้อรา
2. ทำความสะอาดสวนองุ่น ด้วยการเก็บกวาดกิ่งใบองุ่นที่ตกอยู่ใต้ต้นไปเผาทิ้งหรือฝังดินให้หมดเพราะส่วนต่างๆ เหล่านี้เป็นแหล่งแพร่ระบาดของโรคได้
3. ตัดแต่งองุ่นกิ่งให้โล่งโปร่งอยู่เสมอ จะช่วยลดปัญหาได้อย่างมากเลยทีเดียว

4. ควรหมั่นพ่นสารสกัดชีวภาพ ที่หมักจากสมุนไพรไล่แมลงตามธรรมชาติเป็นระยะ ก็สามารถป้องกันได้