การสังเกตผลที่แก่จัดขององุ่น
สำหรับองุ่นที่ปลูกอยู่ในแปลงเดียวกันจะแก่ไม่พร้อมกัน
การเก็บองุ่นจำเป็นต้องเก็บหลายๆครั้ง โดยเลือกเก็บเฉพาะช่อที่แก่เต็มที่ก่อน
และทยอยเก็บไปเรื่อยๆ จนหมด ในการเก็บองุ่นจะใช้กรรไกรตัดที่ขั้วผล แล้วบรรจุลงเข่งหรือลังไม้ที่บุหรือรองด้วยกระดาษห่อฝอยหรือใบตองที่เตรียมไว้
เพื่อป้องกันการชอกช้ำในขณะเคลื่อนย้ายหรือขนส่ง และในการขนส่งก็ควรทำด้วยความระมัดระวังอย่าให้ชอกช้ำมาก
และไม่ควรนำเข่งที่บรรจุผลองุ่นวางซ้อนกัน
เพราะจะทำให้ผลองุ่นได้รับความเสียหายได้
การสังเกตผลแก่ขององุ่น |
หลักในการสังเกตผลแก่ขององุ่น
ผลองุ่นที่แก่จัดจะสังเกตได้หลายอย่าง
เช่น
- การนับอายุ:
ซึ่งจะนับตั้งแต่ตัดแต่งจนถึงแก่จัดซึ่งจะแตกต่างกันไปแล้วแต่พันธุ์
เช่น พันธุ์คาร์ดินัล จะใช้เวลาประมาณ 3 เดือน
พันธุ์ไวท์มะละกา ประมาณ 3 - 3 เดือนครึ่ง
อย่างไรก็ตามการกำหนดการแก่ของผลโดยการนับอายุตั้งแต่ตัดแต่งนี้มีข้อสังเกตบางประการ
เช่น ผลองุ่นที่ใช้ฮอร์โมนจะสุกเร็วกว่าผลที่ไม่ใช้ฮอร์โมนหลายวัน
และฤดูกาลก็มีส่วนเกี่ยวข้องด้วย เช่น ฤดูแล้ง ผลจะสุกเร็วกว่าฤดูฝน เป็นต้น
จึงต้องใช้อย่างอื่นประกอบด้วย เช่น สีของผลที่แก่จัดจะเปลี่ยนจากสีเขียว
(องุ่นทุกพันธุ์ในระยะที่ผลยังเล็กอยู่จะเป็นสีเขียว)
- สังเกตลักษณะสีตามสายพันธุ์:
เช่น พันธุ์ไวท์มะละกา เมื่อแก่จัดเป็นสีเหลืองอ่อนหรือเหลือง ส่วน
พันธุ์คาร์ดินัลเป็นสีม่วงดำหรือแดงอมดำ
เป็นต้น
- ความหวาน:
อาจสังเกตได้จากความหวานของผล โดยการทดลองชิมดูหรืออาจใช้เครื่องวัดเปอร์เซ็นต์ความหวาน
(เครื่องวัดปริมาณน้ำตาล)
- สังเกตขั้วช่อผล:
การสังเกตดูจากขั้วช่อผลเช่น ถ้าผลแก่จัด
ขั้วของช่อผลจะเปลี่ยนจากสีเขียวเป็นสีน้ำตาลเป็นต้น
ดังนั้นการเก็บผลองุ่นที่แก่จัดควรอาศัยเทคนิคหลายๆ
อย่างประกอบกันเพื่อให้แน่ใจและที่สำคัญอย่างยิ่ง คือเกษตรกรผู้ปลูกองุ่นควรงดการให้น้ำแก่ต้นองุ่นสักระยะหนึ่งก่อนการตัดผลเพื่อให้ผลองุ่นมีคุณภาพดี
แต่ในบางครั้งผู้ปลูกองุ่น ก็จำเป็นต้องเก็บผลองุ่นที่จะแก่จัดด้วยเหตุหลายประการ
เช่น ฝนตกขณะผลกำลังแก่จัดจะทำให้ผลแตกเสียหายมาก โดยเฉพาะพันธุ์คาร์ดินังล
และเหตุผลสำคัญอีกประการหนึ่งคือ ในภาวะที่องุ่นขาดตลาด พ่อค้าจะเป็นคนกำหนดให้เก็บผลองุ่นตามเวลาที่เขาต้องการ
ถึงแม้ว่าผลองุ่นจะยังไม่แก่จัดก็ตาม